ประกันชีวิตกับการฝากเงินต่างกันอย่างไร

เราเชื่อได้ว่า คงมีอีกหลายคนที่กำลังมีคำถามในเรื่องนี้มิใช่น้อย ระหว่างการนำเงินของเราไปซื้อประกันชีวิตกับการนำเงินของเราไปฝากกับธนาคารแบบไหนจะดีกว่ากัน เพราะทั้งสองแบบต่างก็เป็นวิธีการที่ใช้สำหรับทางเลือกของการวางแผนทางการเงินด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งก็จะมีข้อดีและข้อเสียกันคนละแบบ แบบไหนที่คู่ควรกับเรา มาดูกันได้เลยครับ

สภาพคล่อง หนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก เพราะทั้งสองแบบนี้จะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก เพราะในการฝากเงินกับธนาคาร เราสามารถฝากถอนได้ตามความต้องการ หรือฝากเงินทุกเมื่อ ซึ่งแน่นอนว่าจะมีสภาพคล่องที่สูงมาก แต่หากเป็นประกันชีวิต เราจะต้องส่งเบี้ยประกันเป็นงวดๆ จนกว่าจะครบกำหนดสัญญา หากเรายกเลิกก่อนกำหนด จะได้เงินคืนตามมูลค่าเวนคืน ซึ่งอาจจะน้อยกว่าเงินที่ส่งไปแล้ว

สิทธิทางภาษี หากใครที่กำลังมองหาทางเลือกของการลดหย่อนภาษี การทำประกันชีวิตก็จะเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างดีมาก เพราะเราสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท โดยเป็นประกันชีวิต 100,000 บาท และประกันบำนาญอีก 200,000 บาท แต่ในขณะที่การฝากเงินกับธนาคาร เราจะไม่ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี อีกทั้งหากเรามีดอกเบี้ยเงินฝากไว้ในธนาคาร เกิน 20,000 บาทขึ้นไป จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 15%

ความคุ้มครอง ในการฝากเงินกับธนาคารแทบทุกที่จะไม่การมอบความคุ้มครองเพิ่มใดๆทั้งสิ้น สิ่งได้รับก็จะมีเพียงดอกเบี้ยเงินฝากแต่เพียงเท่านั้น ในขณะที่การทำประกันชีวิตสิ่งที่ได้คือ มีการคุ้มครองกรณีเสียชีวิต ซึ่งทายาทก็จะได้รับเงินก้อนตามทุนประกันภัยที่ถูกระบุไว้ในสัญญาหรือหากอยู่จนครบกำหนดสัญญา เราก็จะได้รับผลตอบแทนตามที่ได้มีการระบุไว้ในสัญญา

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้หลายคนได้เข้าใจและเห็นถึงความแตกต่างระหว่างการฝากเงินกับการทำประกันชีวิตได้มากขึ้น และหากใครที่กำลังมองหาแผนประกันชีวิตที่ให้สิทธิประโยชน์ทางด้านผลตอบแทนที่สูงมาก ไม่แพ้การฝากประจำ เราขอแนะนำ แมนูไลฟ์ พรีเมียร์ เซฟวิ่ง18/8 ออมสั้นกำลังดี คุ้มครองนานกว่า 2 เท่า แบบประกันชีวิตและออมทรัพย์ระยะกลางที่กำลังดี คุ้มครองไม่สั้นไป และชำระเบี้ยไม่ยาวเกิน! ชำระเบี้ยประกันต่อเนื่องแค่ 8 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองนอกเหนือจากการออมอย่างต่อเนื่องสูงถึง 18 ปี พร้อมสิทธิประโยชน์รับเงินคืนอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2 ถึงครบกำหนดสัญญารวมสูงสุดถึง 180%