ประกันสุขภาพ สิ่งที่ควรมีคู่กับประกันชีวิต

หลายคนที่มีแผนประกันชีวิตไว้แล้วสักฉบับก็คงมีความคิดว่าแค่นี้นั้นเพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อเพิ่มอีก แต่เราก็มักที่จะได้ยินจากหลายคนไม่ว่าจะเป็นคนขายกรมธรรม์เองหรือจากคนสนิทเองว่า ควรทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม ทำไมถึงมีหลายคนนิยมที่จะพูดแบบนั้น ส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะ ประกันสุขภาพ จะเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาพยาบาลและลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ในกรณีทีเราคาดไม่ถึง แม้ว่าหลายคนที่อาจจะมีประกันสังคมที่ใช้ทดแทนได้ในกรณีค่ารักษาพยาบาลหรือค่ายาได้บ้าง แต่ก็ไม่อาจที่สามารถครอบคลุมกับค่ารักษาได้หมด อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขุ้นทุกวัน ทำให้เราอาจจะต้องหาสิ่งที่สามารถช่วยได้นั้นก็คือ ประกันสุขภาพ จนบางครั้งหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าทำไมประกันสุขภาพนี้ถึงต้องคู่กับประกันชีวิต วันนี้เรามีคำตอบมาเล่าให้ฟังกันครับ

ช่วยเพิ่มความคุ้มครองในโรคภัยได้ ในการเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บแต่ละครั้ง เราก็คงที่จะไม่สามารถคาดเดาได้ว่า มันเกิดจากาเหตุอะไร ต้องใช้เวลาในการรักษานานหรือไม่ ค่าใช้จ่ายจะเป็นเท่าไหร่ จึงทำให้การทำประกันสุขภาพจะมีประโยชน์มากขึ้น เพราะจะช่วยให้เราสามารถคลายความกังวลถึงกับปัญหาสุขภาพ

ช่วยสำรองวงเงินในการรักษาพยาบาลได้ ค่ารักษาพยาบาลจะขึ้นอยู่กับปัญหาโรคภัยที่พบเจอ โดยหากเป็นโรคที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากนัก ค่ารักษาพยาบาลก็จะไม่ได้สูงมาก แต่ถ้าหากเราเป็นโรคที่ร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจ เบาหวาน หรือโรคไต เป็นต้น ค่ารักษาพยาบาลก็คงไม่ใช่น้อย และหากต้องรักษาฉุกเฉิน เราก็อาจจะเตรียมเงินได้ไม่ทัน

ช่วยเพิ่มสิ่งที่ประกันสังคมไม่อาจให้ได้ ในบางครั้งที่หลายคนส่วนใหญ่คิดว่า ประกันสังคม ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการรักษาและสร้างความคุ้มครองได้เพียงพอ แต่ในปัจจุบันเราก็ต้องยอมรับว่า ด้วยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมภายนอกที่นับวันยิ่งจะเลวร้ายมากขึ้นและค่ารักษาโรคที่ยิ่งสูงมากขึ้น ประกังสัมคมก็อาจไม่เพียงพอ ประกันสุขภาพก็สามารถตอบโจทย์กับความคุ้มครองได้มากขึ้น

หากใครที่กำลังสนใจมองหาแผนประกันสุขภาพ เราขอแนะนำ ฟินชัวรันส์ ประกันสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองครบ จะอุบัติเหตุเล็กใหญ่ โรคร้ายต่างๆ โรคฮิตทั่วไป มะเร็งทุกระยะ ก็พร้อมดูแลด้วยค่ารักษาแบบเหมาจ่ายสูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อปีด้วย ค่าห้องสูงสุด 9,000 บาทต่อวัน พร้อม OPD สูงสุด 50,000 บาทต่อปี ไม่ต้องซื้อแยก ใบเดียวครบ พิเศษหากตรวจเจอ โควิด 19 รับเงินชดเชยทันที 20,000 บาท พร้อมโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 364 แห่งทั่วประเทศแบบไม่ต้องสำรองจ่าย